P135 – ทัวร์ 4 วัน 3 คืน นครศรีธรรมราช-สุราษฏร์ธานี นอนเขื่อนเชี่ยวหลาน+พักทะเลขนอม+ขอพรไอ้ไข่วัดเจดีย์

แนะนำก่อนทำการตัดสินใจ !!! โปรดอ่านรายละเอียด ดูภาพ Highlight และศึกษาโปรแกรมด้านล่าง ก่อนตัดสินใจ หากต้องการข้อมูลเพิ่มเติ่มโปรดติดต่อเราได้ตามช่องทางด้านล่างนี้

สอบถามหรือจองทัวร์นี้ได้ที่

phone โทร: 086-3884605 (โทรได้ 24ชม.)
mail Email: info@real-phukettour.com
line Line: @realphukettour
whatsapp Whatsapp: +66 86 3884605
facebook-messenger Facebook Messenger

Description

P135 – ทัวร์ 4 วัน 3 คืน นครศรีธรรมราช-สุราษฏร์ธานี นอนเขื่อนเชี่ยวหลาน+พักทะเลขนอม+ขอพรไอ้ไข่วัดเจดีย์

ออกแบบการท่องเที่ยวมืออาชีพที่ลงตัวคือคำตอบสำหรับทริปวันพักผ่อน

นอนนับดาวมที่เขื่อนเชี่ยวหลาน กุ้ยหลินเมืองไทย +ไหว้พระบรมมหาธาตุนครศรีฯ +ขอพรไอ้ไข่ วัดเจดีย์ +  ล่องเรือชมโลมาสีชมพู

พักเมืองนครศรีธรรมราช 1 คืน + พักรีสอร์ททะเลขนอม 1 คืน + พักแพในเขื่อนเชี่ยวหลาน 1 คืน

ข้อมูลสถานที่ท่องเที่ยว

เขื่อนรัชประภา หรือ เชี่ยวหลาน

เชี่ยวหลาน เป็นชื่อแก่งน้ำแห่งหนึ่งในบริเวณคลองแสง ซึ่งเป็นคลองที่มีน้ำเชี่ยวมากที่สุดในฤดูน้ำหลาก สองฟากฝั่งคลองคือ เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าคลองแสง และอุทยานแห่งชาติเขาสก ซึ่งจัดเป็นผืนป่าที่อุดมสมบูรณ์มากที่สุดแห่งหนึ่งของเทือกเขาตะนาวศรี อยู่บริเวณรอยต่อสามจังหวัดของภาคใต้ คือ ระนอง พังงา และสุราษฎร์ธานี บนยอดทิวเขา สูงจากระดับน้ำทะเลปานกลางประมาณ 1,000 เมตร ซึ่งปัจจุบันพื้นที่ป่ากลายเป็น ทะเลสาบขนาดใหญ่ ที่เกิดจากโครงการของ การไฟฟ้า เพื่อสร้างโรงไฟฟ้าพลังน้ำเขื่อนรัชชประภา เพื่อใช้สำหรับผลิตกระแสไฟฟ้า นับตั้งแต่เริ่มมีการกักเก็บน้ำในเชี่ยวหลาน เมื่อวันที่ 3 เมษายน พ.ศ. 2529 ระดับน้ำได้สูงขึ้นอย่างรวดเร็วไหลบ่าท่วมป่าใหญ่จมหายไป ส่วนที่เป็นเนินเขา และภูเขาถูกตัดขาดแบ่งแยกเป็นเกาะเล็กเกาะน้อยมากมายถึง 162 เกาะ สัตว์ป่านานาชนิดได้รับผลกระทบ เนื่องจากขาดแหล่งอาหารและที่อยู่อาศัย รวมถึงถูกน้ำท่วมฉับพลัน มีสัตว์ป่าจำนวนมากที่อพยพหนีน้ำไม่ทันล้มตายเป็นจำนวนมากไม่น้อยกว่า 338 ชนิด ซึ่งในจำนวนนั้นมีสัตว์ที่ใกล้จะสูญพันธุ์หลายชนิด ได้แก่ ช้าง กระทิง วัวแดง สมเสร็จ เสือลายเมฆ เลียงผา ไก่ฟ้าหน้าเขียว นกหว้า และกบทูด ต้นไม้ที่เป็นแหล่งอาหารของสัตว์ป่าได้ล้มตายลง ใบหลุดร่วง รากเน่า เนื่องจากรากที่ดูดซึมน้ำได้แช่อยู่ใต้ระดับน้ำ

วัดพระมหาธาตุวรมหาวิหาร หรือ ที่ชาวนครเรียกว่า วัดพระธาตุ โบราณสถานสถานที่ศักดิ์สิทธิ์และเป็น มิ่งขวัญชาวเมือง นครศรีธรรมราชตลอดจน พุทธศานิกชน  ทั้งหลาย สัญลักษณ์ของจังหวัดนครศรีธรรมราชที่รู้จักกันแพร่หลายก็คือ พระบรมธาตุเจดีย์  ซึ่งตั้งอยู่ภายในวัดพระมหาธาตุวรมหาวิหาร เนื่องจากเป็นที่บรรจุ พระบรมสารีริกธาตุของพระพุทธเจ้า ปัจจุบันกรมศิลปากรได้ประกาศ จดทะเบียนวัดพระมหาธาตุเป็นโบราณสถาน นับเป็นปูชนียสถาน ที่สำคัญที่สุดแห่งหนึ่งของภาคใต้ พระบรมธาตุเจดีย์ เป็นเจดีย์สถาปัตยกรรมแบบทรงระฆังคว่ำ มีจุดเด่นที่ยอดเจดีย์ ซึ่งหุ้มด้วยทองคำแท้ จากความเชื่อเล่าสืบตอบกันมาว่าองค์พระธาตุ ประกอบด้วยทองรูปพรรณและของมีค่ามากมายจรดปลายเจดีย์ ซึ่งสิ่งของมีค่า เหล่านี้พุทธศสานิกชนนำมาถวาย แด่องค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้าเพื่อให้ตน ได้พบกับนิพพาน จากคำขวัญประจำ จังหวัดเมืองประวัติศาสตร์ พระธาตุทองคำ ชื่นฉ่ำธรรมชาติ แร่ธาตุอุดม เครื่องถมสามกษัตริย์ มากวัดมากศิลป์ ครบสิ้นกุ้งปข้อความว่า พระธาตุทองคำ จึงหมายถึง ยอดเจดีย์ทองของพระบรมธาตุนั่นเอง และหากใครต้องการ ชมยอดพระธาตสีทองเหลืองอร่าม อย่างใกล้ชิด มีบริการกล้องส่องทางไกลให้ใช้บริการสนนราคาแล้ว แต่ตกลง กันว่าจะชื่นชมความงดงามนั้นนานเพียงใด ด้วยความมีชื่อเสียงและ ศักดิ์สิทธิ์ของพระบรมธาตุเจดีย์ ดึงดูดให้ผู้คน จากทั่วสารทิศแวะมากราบไหว้ขอพร

ประเพณีแห่ผ้าขึ้นธาตุ  ขบวนแห่ผ้าขึ้นห่มพระบรมธาตุเจดีย์ ประเพณีผ้าขึ้นธาตุ หมายถึง การนำผ้าผืนยาวขึ้นไปห่มองค์พระบรมธาตุเจดีย์ในวันสำคัญทางศาสนา ชาวนครได้ร่วมมือร่วมใจกันบริจาคเงินตามกำลังศรัทธานำเงินที่ได้ไปซื้อผ้ามาเย็บต่อกันเป็นแถวยาวนับพันหลา แล้วจัดเป็นขบวนแห่ผ้าขึ้นห่มพระบรมธาตุเจดีย์ ผ้าที่ขึ้นไปห่มองค์พระบรมธาตุเจดีย์เรียกว่า “ผ้าพระบฎ” (หรือ พระบต) นิยมใช้สีขาว สีเหลือง สีแดง สำหรับผ้าสีขาวนิยมเขียนภาพเนื้อหาเกี่ยวกับพุทธประวัติตั้งแต่ประสูติ เสด็จออกบรรพชา ตรัสรู้ ปฐมเทศนา และปรินิพพาน ประเพณีแห่ผ้าขึ้นธาตุเป็นเอกลักษณ์ประจำเมืองนครศรีธรรมราช แก่นแท้อยู่ที่การบูชาพระพุทธเจ้าอย่างใกล้ชิด โดยใช้องค์พระบรมธาตุเจดีย์เป็นตัวแทน

วัดเจดีย์ หรือวัดไอ้ไข่

วัดเจดีย์ (ไอ้ไข่) หรือที่นิยมเรียกกันว่า วัดเจดีย์ไอ้ไข่ หรือวัดไอ้ไข่ ตั้งอยู่ ณ ตำบลฉลอง อำเภอสิชล จังหวัดนครศรีธรรมราช ที่ชื่อวัด “ไอ้ไข่” มาจากชื่อของเด็กชายที่ได้ติดตามหลวงปู่ทวด ซึ่งกำลังเดินทางจากสงขลาไปยังกรุงศรีอยุธยา

รูปไม้แกะไอ้ไข่ เด็กวัดเจดีย์  คำบอกเล่า เห็นเด็กเปลื้องผ้าวิ่งเข้าออกในพระพุทธโบราณนามเรียกว่า พ่อท่านเจ้าวัด จนเป็นที่เคารพนับถือของชาวบ้านละแวกวัดเจดีย์ และบนบานศาลกล่าวกันว่า พ่อท่านเจ้าวัด และ เด็กวัด (ตามด้วยเรื่องที่บนบาน หรือเรื่องที่ขอให้ช่วยเหลือ) ด้วยแต่ก่อนท้องถิ่นแห่งนี้ ประกอบอาชีพ เกษตรกรรม เลี้ยงวัว เลี้ยงควาย เมื่อวัวใครหาย ควายใครสูญ ก็จะบนบานเด็กวัดให้ช่วยทุกคราไป ในสมัยนั้นวัดเจดีย์ยังคงสภาพวัดร้าง เป็นป่ารกชัน ชาวบ้านก็ได้แต่เอ่ยชื่อ ไม่ได้มีรูปเคารพ แม้แต่อย่างใด เมื่อสิ่งที่ขอหรือบนบานสำเร็จ ก็จะแก้บนด้วยธงทิว ถวายพ่อท่านเจ้าวัด ปางหนังสติ๊กถวายเด็กวัด จนล่วงผ่านสมัยมาถึงยุคของ ผู้ใหญ่เที่ยง เมืองอินทร์ (ฉายา เที่ยง หักเหล็ก) จอมขมังเวทย์แห่งตำบลฉลอง มีวิชาโดดเด่นทางด้านการหักเหล็กด้วยมือเปล่า อีกทั้งมีวิชาไสยเวทย์อีกมากมาย ได้แกะรูปเคารพเป็นรูปร่างเด็กชาย ด้วยไม้ทองหลางไว้ให้ชาวบ้านได้กราบบูชา และแก้บนแต่เนื่องจากไม้ทองหลางเป็นไม้เนื้ออ่อน รูปเคารพเด็กวัดจึงผุพังไปตามกาลเวลา ผู้ใหญ่เที่ยง ด้วยความชราภาพ ก็เว้นจากการแกะไม้รูปใหม่ จนอยู่มาคืนหนึ่ง ผู้ใหญ่เที่ยง ได้ฝันไปว่ามีเด็กแก้ผ้ามาบอกในความฝัน “ช่วยแกะไม้ใหม่ให้เราหน่อย” ในความฝัน ผู้ใหญ่เที่ยง ได้ถามไปว่า “นั่นใครล่ะที่มาบอกให้ช่วยแกะไม้ให้” เด็กแก้ผ้าตอบว่า “เราคือไอ้ไข่เด็กวัดเจดีย์” ผู้ใหญ่เที่ยงจึงไปนำไม้ตะเคียนคู่ (ตะเคียนขาเกียบ) บริเวณวัดพระโอน (วัดร้างใกล้บ้าน) มาแกะขึ้นรูปเป็นรูปเด็กแก้ผ้า มีอขวากำหมัดยกขึ้นวางตรงหน้าอก มือซ้ายทิ้งมือแนบลำตัว เสร็จแล้วก็นำใส่รถเข็น นำมาไว้ที่วัดเจดีย์ เมื่อพ.ศ. 2525 (เริ่มแกะ ตอนปลาย พ.ศ. 2524) และได้ปรึกษา พ่อท่านเทิ่ม เจ้าอาวาสในสมัยนั้น ว่าน่าจะตั้งชื่อให้เด็กวัด ได้มีชื่อมีนามเรียกกัน พ่อท่านเทิ่ม จึงถามว่า จะให้ชื่ออะไรดี ผู้ใหญ่เที่ยงจึงบอกไปว่าให้เรียก ไอ้ไข่ จากนั้นเป็นต้นมา เด็กวัด ก็เปลี่ยนชื่อเรียกเป็น ไอ้ไข่เด็กวัดเจดีย์ ตราบจนปัจจุบันนี้ และได้ประกอบพิธีเรียกรู้ เรียกนาม เรียกดวงจิตวิญญาณมาสถิตย์ โดย ผู้ใหญ่เที่ยง ในคราวเดียวกับ การปลุกเสกเหรียญ “ไอ้ไข่เด็กวัดเจดีย์” (รุ่นแรก) เมื่อ พ.ศ. 2526 ตอนแรกๆจะสร้างทุกๆ10 ปีครั้งครับ แต่หลังๆสร้างกันบ่อยครับตามกระแสนิย

รายละเอียดโปรแกรมทัวร์

วันที่ 1 รับท่านจากสนามบิน หรือที่ใดๆในสุราษฯ หรือ ภูเก็ต เดินทางไปเที่ยวและพักบนแพลอยน้ำ ที่เขื่อนเชี่ยวหลาน (เขื่อนรัชชประภา)

ยินดีต้อนรับทุกท่านสู่ จังหวัดสุราษฏร์ธานี เมืองร้อยเกาะ เงาะอร่อย ครับ พนักงาน เรียลภูเก็ตทัวร์ รอต้อนรับคณะท่านทางออก ทุกคนเช็คสัมภาระ ส่วนตัวเรียบร้อย เตรียมเดินทางกันครับ ด้วยรถตู้ แบบ VIP 9 ที่นั่งแบบนั้งสบายๆตลอดการเดินทาง ก่อนอื่นท่านเดินทางมาถึงช่วงเช้า เรานำท่านไปรับประทานอาหารเช้ากันก่อนที่ ร้านติมซำแม่ปู ให้ทุกท่านเลือกสั่งเลือกทาน มีเมนูหลากหลายให้สั่งกันแบบเต็มที่ครับ พร้อม ชา กาแฟ และเครื่องดื่มเย็นๆ ทานกันแบบสบายๆ จากนั้นออกเดินทางมุ่งหน้าเขื่อนเชี่ยวหลาน ใช้เวลา 1 ชั่วโมงครับ

11.00 ถึงสันเขื่อนแวะให้ทุกคนได้ถ่ายรูปสวยๆของป้ายเขื่อนรัชชประภา และวิวทะเลสาบจากมุมสูงได้ชัดเจน จากนั้นเดินทางสู่ท่าเรือเทศบาลไม่ไกลครับ ทางเราจัด เรือแบเหมาลำ Private ให้บริการสำหรับกรุ๊ปเราเฉพาะครับ พนักงานด้วยเช็คสัมภาระและค่าใช้จ่ายต่างๆที่อุทยาน ทุกท่านพร้อมลงเรือกันได้เลยครับ
111.30 เดินทาง ออกจากท่าเรือโดยเรือหางยาว สำหรับการล่องเขื่อน Dam Rover วิ่งชมวิวความงามของเขื่อนเชี่ยวหลานไปตลอดทางครับ สวยพร้อม จัดเต็มโดยธรรมชาติ ป่าไม้ ผืนน้ำ ขุนเขา ตระห่านล้อมรอบ ระหว่างการเดินทาง
12.30 เดินทางถึงแพที่พัก แพเดอะลากูน่า เชี่ยวหลาน  เข้า Check In ที่พักเรียบร้อย Staff ของ เรียลภูเก็ตทัวร์ และเสริฟอาหารเที่ยงรสชาดเยี่ยม (แบบคนใต้) นั่งทานแบบสบายๆ บรรยากาสชิลล์ๆที่เงียบสงบ
14.00 กลับลงเรือลำเดิม เราจะล่องเรือชมบรรยากาศรอบเขื่อนกันครับ
16.00 จากนั้นเดินทางกลับมายังที่พัก ให้ทุกท่านพักผ่อน มีกิจกรรมให้ทุกท่านเลือกเล่นได้ครับ พายแคนูด้วยตัวท่านเองบริเวณที่พัก หรือเลือกว่ายน้ำหน้าห้องพัก แบบสบายๆกับบรรยากาสยามเย็น น้ำใสๆเย็นสบายครับ
19.00 รับประทานอาหารมื้อค่ำกันที่ ร้านอาหารของ รีสอร์ทกันครับ
20.30 ทุกท่านพักผ่อนตามอัธยาศัย
                                                                                     คืนนี้ราตรีสวัสดิ์ครับ


วันที่ 2 ทัวร์กุ้ยหลินเมืองไทย –ป่าต้นน้ำบ้านน้ำราด – สวนตาสรรค์ พักที่ อ.ขนอม

07.30 รับประทานอาหารเช้ากันที่โรงแรม พร้อมทั้งเช็คเอ๊าท์
08.30 เราจะเดินทางไปกันต่อครับ เพื่อแวะเยี่ยมชม กุ้ยหลิน (ประเทศไทย) หรือที่เรียกว่า เขาสามเกลอ อันลือชื่อ แต่ในบริเวณอันกว้างใหญ่ไพศาล นั้นมีความงามสลับซับซ้อนของภูเขาเล็ก และผืนน้ำงดงามเหมือน ฮาลองเบย์ แต่แน่นอนว่าในความแตกต่างของภูมิประเทศ ที่นี้สวยสมบูรณ์แบบกว่า ให้ทุกคนถ่ายรูปสวยๆกันแบบเต็มที่ จากนั้นเดินทางกลับสู่ท่าเรือ
09.30 เดินทางถึงท่าเรือ รถคันเดิมรอรับคณะ พร้อมออกเดินทางกันครับ ไปจังหวัดสุราษฎร์ธานี นั้นถือได้ว่ามีแหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติที่หลากหลาย และถ้าพูดถึงที่เที่ยวแบบ Unseen ยอดฮิตที่นี่ หลายคนคงนึกถึง เขื่อนเชี่ยวหลาน (กุ้ยหลินเมืองไทย) หรือ คลองน้ำใส กันแน่ๆ แต่วันนี้เราจะพาทุกคนไปพบกับแหล่งท่องเที่ยวแห่งใหม่ ที่รับรองได้ว่า Unseen ไม่แพ้ที่อื่นๆ เลย กับ “ป่าต้นน้ำ” บ้านน้ำราด

ความใสของน้ำทำให้ทุกคนอยากลงแช่น้ำ ก็ได้ครับตามใจชอบ เพียงพนักงานเราเท่านั้น หรือจะเลือกพายแคนู ก็มีคนพายให้ชมความงามกันแบบสบายๆครับ เสร็จจากนี้ เราเดินทางกันครับไปทานอาหารทะเลสดๆกันที่ ร้านเคียงเล อ.กาญจนดิษฐ์ มาสุราษฏร์ฯ
13.00 เดินทางถึงร้านอาหารมาถึงที่แล้วต้องสั่ง หอยนางรม ทานกันละครับ ที่นี่แหล่งเพาะเลี้ยงหอยนางรมที่ดีที่สุดในเมืองไทยครับ
นอกจากนั้นยังมี กุ้ง หอย ปู ปลา สดๆให้เลือกทานกันอีกครับ
14.00 ทานกันเรียบร้อยพร้อมออกเดินทางกันครับ มุ่งหน้าสู่อ.ขนอม จ.ครศรีธรรมราช ระหว่างทางเราแวะให้ทุกท่าน ได้ลองทำสปาปลา แบบธรรมชาติที่สวนตาสรรค์ นั่งแช่เท้าในธารน้ำใสๆธรรมชาติ บรรยากาศธรรมชาติ กลางป่าร่มรื่น แบบสบายๆสัก 30 นาที ก่อนเดินทางไปเข้าที่พักโรงแรม
16.30 เดินทางเข้าที่พัก โรงแรม ขนอมบีช รีสอร์ท ดีที่สุดของ ขนอมเลยครับ ติดทะเล สามารถเล่นน้ำได้ตลอดหน้าโรงแรม หรือจะเลือกว่ายในสระน้ำของโรงแรมตั้งบนชายหาด วิวสวยๆ ตามใจชอบครับ

18.30 มื้อครับวันนี้จัดเต็มครับ มาทะเลต้องเน้นอาหารทะเลกันครับ ที่ร้านครัว ต้นหยี รับรองความอร่อย ความสด ของวัตถุดิบ ที่นี่สดทุกวันจากประมงพื้นบ้านครับ เมนูจัดให้แบบเต็มที่ครับ
20.30 เดินทางกลับที่พัก


วันที่ 3 ล่องเรือชมปลาโลมา  แบบเหมาลำ – เขาพลายดำ – ไหว้อ้ไข่วัดเจดีย์ เดินทางไป จ.นครศรีธรรมราช

สวัสดีตอนเช้าของวันนี้ ทุกคนต้องตื่นเช้าครับเพื่อนจะไปชมโลมาสีชมพูกันครับ
07.00 รถออกจากโรงแรมที่พักสู่ท่าเทียบเรือ ที่อ่าวเตล็ด เรานั่งเรือหางยาว ไปเที่ยวทะเลขนอม
เพื่อชมโลมาสีชมพูได้ง่ายที่สุดและอยู่ในระยะใกล้ฝั่งมากไม่ต้องนั่งเรือไปหาให้ไกลถึงกลางทะเล คนเรือบอกว่าที่บริเวณนี้มีเยอะเพราะเป็นจุดที่มีปลาตัวเล็กอาศัยอยู่ปลาโลมาเลยว่ายมาหาปลากินตลอด ล่องเรือชมโลมาสีชมพู เขาหินพับผ้า และไปนมัสการหลวงปู่ทวด ที่เกาะนุ้ยนอก ใช้เวลาท่องเที่ยวประมาณ 1-2 ชั่วโมง ช่วงเวลาที่ล่องเรือควรมาแต่เช้าประมาณ 8 โมง เพราะเป็นช่วงเวลาที่ปลาโลมาจะออกหาอาหารที่สำคัญไม่ร้อนมาก ชมโลมาสีชมพู

ปลาโลมาสีชมพู
โลมาสีชมพูแห่งขนอม

ไหว้พระเรียบร้อย เดินทางกลับโรงแรมพร้อมเช็กเอ๊าท์ เดินทางกันไปตัวเมืองนครศรีธรรมราช ระหว่างทางเราแวะ จุดชมวิว เขาพลายดำ กันครับ จุดนี้เป็นแลนด์มาร์คแห่งใหม่ของ อ.ขนอม และสิชล และมีถนนที่สวยงามที่สุดในเมืองไทยให้ทุกคนได้ถ่ายรูปกันครับ จากนั้นเดินทางไปรับประทานอาหารมื้อเที่ยงกันที่ ร้านโกโตน อ.สิชล อาหารพื้นบ้าน ของคนใต้แท้ๆครับ
12.00 รับประทานอาหารกลางวันครับ เมนู เลือกสั่งได้ตามความชอบครับ  รสชาติ อร่อย สะอาดครับ แล้วเดินทางต่อไป ไหว้ขอพรไอ้ไข่วัดเจดีย์กันครับ จากร้านใช้เวลาประมาณ 30 นาทีครับ
13.30 เดินทางถึงวัดเจดีย์ หรือวัดไอ้ไข่ ตามชาวบ้านรียกกันครับ ตำนาน ไอ้ไข่ นั้น มีมากมายหลายเรื่องด้วยกัน ทั้งที่ว่าไอ้ไข่คือวิญญาณเด็กที่ติดตามหลวงพ่อทวด เมื่อหลวงพ่อทวดธุดงค์มาที่วัดร้างแห่งนี้ และให้วิญญาณดวงนี้เฝ้าดูแลปกปักษ์รักษาทรัพย์สินของแผ่นดินที่อยู่ภายในวัดไว้ ในขณะที่บางตำนานเล่าว่า ไอ้ไข่ คือเด็กที่เคยวิ่งเล่นอยู่ในวัดเมื่อนานมาแล้ว ต่อมาเด็กคนนั้นประสบอุบัติเหตุตกน้ำเสียชีวิต วิญญาณของเด็กผูกพันอยู่กับวัด ก็เลยสถิตย์ที่วัดนี้ตั้งแต่นั้นมา  แต่สิ่งที่ทำให้ ไอ้ไข่ นั้น โด่งดังขึ้นมาก็คือ เหตุการณ์ของกองร้อยทหารพรานที่มาตั้งฐานปฏิบัติการชั่วคราวอยู่ วัดเจดีย์ ในคืนแรกที่มานั้นทั้งกองแทบไม่ได้หลับเลย เพราะมีเด็กมาเล่นหยอก ดึงแขนดึงขาตลอดทั้งคืน ตอนเช้าก็เลยเอาเรื่องนี้มาเล่าให้ชาวบ้านฟัง ชาวบ้านเลยเล่าเรื่องของไอ้ไข่ให้ฟัง เลยบอกให้ทหารกลุ่มนี้ไหว้สักการะดวงวิญญาณไอ้ไข่ และให้เอาอาหารมาเซ่นไหว้ให้กับไอ้ไข่ด้วย หลังจากนั้นทุกอย่างก็สงบ ไม่มีสิ่งใดมารบกวน ทหารพรานเลยเอาเรื่องนี้มาเล่าต่อให้คนภายนอกฟัง ชื่อเสียงของไอ้ไข่ก็เลยเป็นที่รู้จักกันมากขึ้นไปอีก เสร็จจากไหว้ไอไข่ เราเดินทางไป เข้าที่พักโรงแรม แกรนด์ ฟอร์จูน นครศรีธรรมราช กันครับ ใช้เวลาประมาณ 1.30 ชั่วโมงจากวัดครับ
16.00 เดินทางถึงโรงแรมที่พัก เช็คอินเรียบร้อย ให้ทุกคนพักผ่อนตามอัธยาศัย
18.30 ไปรับประทานอาหารมื้อค่ำกันที่ร้าน ครัวนายหนัง ร้านดังของเมืองนคนฯอีกร้านหนึ่ง ปักษ์ใต้แท้ๆ มีเมนูเด็ดๆ แกงส้มปลากด ผั
เผ็ดปลาดุกทะเล ฉูฉี่ปลาหมอนา และอีกมามายให้เลือกสั่งครับ
20.30 เดินทางกลับโรงแรมที่พักกันครับ


วันที่ 4 วันสุดท้ายของการเดินทาง ไหว้พระธาตุเมืองนครฯ ไหว้ศาลหลักเมือง เที่ยวตลาด 100 ปี ปากพนัง คีรีวง สนามบิน

08.00 ทุกท่านพร้อมกันที่ Lobby พร้อมทั้งเช็คเอ๊าท์ ไปทานอาหารเช้าร้านดังของเมืองนครกันครับ ร้านโกปี้ เป็นอาหารเช้าพื้นเมืองของคนนครฯครับ มีมากมายให้เลือกสั่ง เมนูเด็ดๆแบบชาวบ้านกันจริงๆครับ

เสร็จจากทานอาหารเช้า เดินทางไปไหว้พระธาตุเมืองนครเพื่อเป็นศิริมงคล แก่ชีวิต สัมผัสความล้ำค่าแห่งเมืองนครศรีธรรมราชผ่านปูชนียสถานที่สำคัญที่สุดแห่งหนึ่งของภาคใต้และของประเทศไทย ที่เปรียบดังศูนย์รวมจิตใจของพุทธศาสนิกชนชาวใต้ วัดพระมหาธาตุวรมหาวิหารนั้น เป็นพระอารามหลวงชั้นเอก ชั้นวรมหาวิหาร เดิมชื่อวัดพระบรมธาตุ เป็นปูชณียสถานที่สำคัญที่สุดแห่งหนึ่งของภาคใต้และประเทศไทย ที่มีหัวใจสำคัญคือองค์พระบรมธาตุเจดีย์ที่มีส่วนยอดเจดีย์เป็นทองคำซึ่งพระบรมธาตุองค์นี้ สร้างขึ้นมาเพื่อประดิษฐานพระบรมสารีริกธาตุ (พระทันตธาตุหรือพระเขี้ยวแก้วเบื้องซ้าย) อันเป็นที่สักการะบูชาของชาวเมืองนครฯ ย้อนรอยพระบรมธาตุฯ

ตามตำนานพระบรมธาตุนครศรีธรรมราช กล่าวว่า เจ้าชายธนกุมารและพระนางเหมชาลา เป็นผู้นำเสด็จพระบรมธาตุมาประดิษฐาน ณ หาดทรายแก้ว และสร้างเจดีย์องค์เล็ก ๆ เป็นที่หมายไว้ ต่อมาในปีมหาศักราช 1098 ( พ.ศ. 1719) พระเจ้าศรีธรรมาโศกราช ทรงสร้างเมืองนครศรีธรรมราชขึ้น พร้อมก่อสร้างเจดีย์องค์ใหม่ เป็นเจดีย์ทรงลงกา สูง 55.78 เมตร (กรมศิลปากรบูรณะปลียอดทองคำเมื่อ พ.ศ. 2538) จากฐานบัวคว่ำบัวหงายถึงปลียอด สูง 6.80 ใช้ทองคำเนื้อสิบหุ้มโดยรอบ ภายในวัดพระมหาธาตุฯ มีวิหารที่มีความสำคัญหลายหลังประดิษฐานอยู่ เช่นสิ่งที่น่าสนใจ-พระบรมธาตุเจดีย์องค์พระมหาธาตุประกอบด้วยทองรูปประพรรณ และของมีค่ามากมาย ซึ่งสิ่งมีค่าเหล่านี้พุทธศาสนิกชนนำมาถวายแด่องค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้าเพื่อให้ตนได้พบกับนิพพาน มีพิธีปฏิบัติอย่างหนึ่งต่อองค์พระธาตุ คือ ในวันมาฆบูชาแห่ผ้าขึ้นธาตุ เชื่อกันว่าหากใครได้นำผ้าขึ้นธาตุ จะขอพรได้เป็นจริงดังหวัง-วิหารพระมหาภิเนษกรมน์วิ (หารพระทรงม้า) เป็นวิหารหลักใช้สำหรับเป็นทางขึ้นไปประกอบพิธีกรรทางศาสนา และเป็นงานประจำปีของวัดด้วยครับ จากนั้นเดินทางไปต่อ ตลาด 100 ปี ปากพนัง

จากนั้นเดินทางไปทานอาหารเที่ยง ที่ร้าน บ้านวงศ์เบี้ยสัจจ์ บ้านพักเชิงนิเวศ ถ้าพูดถึงอำเภอ “ปากพนัง” อำเภอหนึ่งในจังหวัดนครศรีธรรมราช เชื่อว่าหลายๆ คนคงจะนึงถึง “แหลมตะลุมพุก” เป็นแน่ แต่วันนี้เราไม่ได้พาทุกคนไปตะลุยแหลมตะลุมพุก แต่เราจะพาทุกคนไปสัมผัสธรรมชาติกันที่  “บ้านวงศ์เบี้ยสัจจ์” ร้านกาแฟ ร้านอาหารและบ้านพักเชิงนิเวศ ที่ยังคงความอุดมสมบูรณ์มากที่สุดอีกแห่งหนึ่ง ริมแม่น้ำปากพนัง อำเภอปากพนัง จังหวัดนครศรีธรรมราชนั่นเอง  จากชมธรรมชาติเรียบร้อย เดินทางไปรับประทานอาหารเที่ยงที่ บ้านบางรัก ระหว่างทาง เราแวะให้ทุกท่านได้ชิม ส้มโอทับทิมสยาม ของแท้จากสวนกันจริงๆครับ อร่อยแน่นอน จากนั้นไม่นานถึงร้าน

12.00 รัประทานอาหารกลางวัน อาหารใต้เด็ดๆทั้งร้าน บรรยากาศ ริมแม่น้ำ ร่มรื่นนั่งทานสบายๆ เลือกสั่งได้ตามความชอบครับ
13.00 เดินทางกันต่อครับ ไปหมู่บ้านคีรีวง ใช้เวลา 1 ชั่วโมงโดยประมาณจากร้านอาหาร
14.00 ถึงแล้วครับ หมู่บ้านที่อากาศดีที่สุดในเมืองไทยครับ    ด้วยเสน่ห์ของ หมู่บ้านคีรีวง คือ ความสงบและความเงียบ การสัมผัสวิถีชีวิตแบบชนบท พร้อมบรรยากาศหมู่บ้านที่อยู่กลางหุบเขา สามารถนั่งชิลๆ ฟังเสียงน้ำ ผ่านแก่งหินต่างๆ เลยทำให้ที่นี่กลายเป็นชุมชนต้นแบบในการจัดการธุรกิจท่องเที่ยวเชิงนิเวศ จน ได้รับรางวัลยอดเยี่ยมอุตสาหกรรมท่องเที่ยว ประจำปี 2541 ( Thailand Tourism Awards ) ประเภทเมืองและชุมชน อีกด้วยครับ นอกจากนั้นทางหมู่บ้านยังได้พัฒนาด้านการบริการนักท่องเที่ยวให้กลายเป็นธุรกิจใหม่ของชุมชน ไม่ว่าจะเป็น การนำทาง เดินป่า ลูกหาบ หรือ โฮมสเตย์ โดยมีส่วนร่วมจากชุมชน เพราะมีชมรมการท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์เป็นองค์กรกลางสำหรับแบ่งหน้าที่ไปยังกลุ่มต่างๆ เลยทำให้การมาท่องเที่ยวที่ หมู่บ้านคีรีวง นี้ นอกจากบริเวณที่มีธรรมชาติสวยงามแล้ว ยังได้สัมผัสกับวิถีชีวิตของชาวบ้านแบบเต็มๆ   ไฮไลท์จุดท่องเที่ยวของ หมูบ้านคีรีวง นี้ ที่ต้องห้ามพลาดเลย คือ สะพานบ้านคีรีวง เรียกได้ว่าเป็นเหมือนจุดแลนด์มาร์คที่ไม่ว่าใครก็ต้องมาถ่ายรูปกัน ถ้าใครไม่ได้มาถ่ายรูปกับสะพานนี้ ก็เหมือนมาไม่ถึงบ้านคีรีวงเลยครับ… นอกจากนั้น ก็จะมีที่เที่ยวมากมายเลยครับ… ทั้ง คลองหนานหินท่าหา สะพานแขวน-ท่าหา ถ้ำน้ำวังศรีธรรมโศกราช น้ำตกวังไม้ปัก ตลาดบ้านคีรีวง เป็นต้นครับ เสร็จจากคีรีวง

จบทริปละครับ เราขึ้นรถเตรียมตัวเดินทางไปยังสนามบินนครศรีธรรมราช ใช้เวลา ประมาณ 1 ชั่วโมงจากคีรีวง หากมีเวลาเหลือสามารถแวะดื่ม ชา กาแฟ แวะร้านของฝากได้ครับ ให้ถึงสนามบิน ก่อนเที่ยวบิน 1.30 ชั่วโมงครับ

 

จบการบริการทริปแห่งความภาคภูมิใจของเรียลภูเก็ตทัวร์
ขอขอบคุณทุกท่านที่ไว้วางใจให้ทีมงานได้บริการ และขอให้ทุกท่านถึงที่หมายอย่างปลอดภัยครับ
แนะนำให้เดินทางด้วยเครื่องบินเที่ยวเช้าสุดที่ดีมากครับ

ผู้เดินทาง

ราคาต่อท่าน

ผู้ใหญ่ 18,400 บาท
เด็ก 4-11 ปี 9,200 บาท

โปรดอ่าน:

  • โปรแกรมทัวร์นี้อาจมีการเปลี่ยนแปลงได้โดยมิต้องแจ้งให้ทราบล่วงหน้า ทั้งนี้โดยคำนึงถึงความปลอดภัยและประโยชน์ของผู้เดินทางเป็นสำคัญ
  • ถ้าหากว่าโปรแกรมทัวร์ด้านบนไม่สามารถตอบสนองความต้องการของท่านได้ เรายินดีจะช่วยจัดทัวร์ที่ดีที่สุดสำหรับท่าน โทร 086-3884605
  • ท่านสามารถจองทัวร์นี้ได้โดยการชำระเงินมัดจำ 30% ของยอดเต็ม และชำระส่วนที่เหลือก่อนเดินทาง 3 วัน
  • ทัวร์นี้รับจองขั้นต่ำที่ 2 ท่าน
  • เด็กอายุ 1-3 ปี ไม่คิดค่าบริการ
  • กรณีต้องการพักเดี่ยวมีค่าใช้จ่ายเพิ่ม
  • หากจำนวนผู้เดินทางเกิน 8 ท่าน โปรดโทร. 086-3884605 เพื่อรับข้อเสนอที่ดีที่สุด

 

ทัวร์นี้รวม:

  • รถตู้ VIP พร้อมคนขับ Stand By 24 ชั่วโมง ควบคุมขับขี่ด้วย GPS พร้อม Free Wifi ฟรีตลอดการเดินทาง
  • ห้องพัก 3 คืน ตามที่ระบุ พร้อมอาหารเช้า
  • ทัวร์ขอพรไหว้วัดพระธาตุฯ ศาลหลักเมืองนครฯ
  • ทัวร์ไหว้ขอพรไอ้ไข่วัดเจดีย์ เขาพลายดำ ทะเลขนอม
  • ทัวร์เขื่อนเชี่ยวหลาน ด้วยเรือหางยาว แบบ Private Tour
  • ทัวร์ชมโลมาสีชมพูด้วยเรือหางยาว แบบ Private Tour
  • ทัวร์ชมป่าต้นน้ำบ้านน้ำราด พร้อมพายเรือแคนู
  • ทัวร์ชมหมู่บ้านคีรีวง
  • ค่าธรรมเนียมเข้าชมอุทยานฯ
  • มัคคุเทศก์ มืออาชีพ ดูแลตลอดทริป
  • อาหารทุกมื้อ
  • ประกันภัยอุบัติเหตุ
  • บริการ ชา กาแฟ สด ตลอดการเดินทาง
  • ราคานี้ไม่รวม ตั๋วเครื่องบิน และภาษีมูลค่าเพิ่ม VAT 7%

สิ่งที่ควรเอาไปด้วย:

  • กระเป๋าเดินทาง ของใช้ส่วนตัว ยาประจำตัว
  • ชุดว่ายน้ำ พร้อมรองเท้าแตะ
  • โลชั่นกันแดด
  • หมวก
  • แว่นตากันแดด
  • กล้องถ่ายรูป ถ้ากันน้ำได้จะดีมาก
  • เงินสำหรับซื้อของเล็กๆน้อยๆ
Print Friendly, PDF & Email